|
 |
|
������������������������������ |
|
|
______________________________________________________________________________________________ |
เทศบาลเมืองน่านร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี พ.ศ.2564 มณฑลทหารบก ที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ |
เทศบาลเมืองน่านร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี พ.ศ.2564 มณฑลทหารบก
ที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์
(28 ธ.ค. 64) นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน มอบหมายให้ นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายเป็นราชสักการะแด่พระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องในวัน พระเจ้าตากสินมหาราช ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มณฑลทหารบกที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ทั้งนี้โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พล.ต.คณิศร อาสมะ ผบ.มทบ. 38 ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ผู้แทนหน่วยงาน ร่วมพิธีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง
28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระนามเดิมว่า สิน พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 โดยบิดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นชาวจีนแต้จิ๋วชื่อ "นายไหฮอง ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ นางนกเอี้ยง ในช่วงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือสมเด็จพระธรรมราชาธิราชที่ 3 โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถูกพระยาจักรีขอไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ต่อมาเมื่ออายุครบ 13 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำตัวเด็กชายสินไปถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรได้เสด็จขึ้นครองราชย์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ได้ 3 เดือน จึงได้ถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราช "สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ซึ่ง สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯให้นายสิน ซึ่งเป็นมหาดเล็ก รายงานเป็นข้าหลวงเชิญท้องตราพระราชสีห์ไปชำระความที่หัวเมืองฝ่ายเหนือ ซึ่งปฏิบัติราชการได้รับความดีความชอบมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตากช่วยราชการพระยาตาก ครั้นพระยาตากถึงแก่กรรมทรงโปรดให้เลื่อนเป็น "พระยาตาก ปกครองเมืองตาก
พระราชกรณียกิจสำคัญของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
1. การกู้เอกราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รวบรวมกำลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี แล้วยกทัพกลับไปตีพม่าที่กรุงศรีอยุธยา หลังจากที่ก่อนหน้านี้พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าเอกทัศ และได้เสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 โดยพระยาตากสามารถตีพม่าจนแตกพ่ายไป และรวบรวมผู้คนกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน
2. การสร้างและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิม พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบุรีและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระบรมราชาธิราชที่ 4 และครองกรุงธนบุรีนานถึง 15 ปี ซึ่งนับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ได้ปกครองกรุงธนบุรี
3. นอกจากจะทรงกู้เอกราชและทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง พระองค์ยังได้ขยายอาณาเขตโดยตีเวียงจันทน์ และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวง ทรงทำนุบำรุงศาสนาและทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสือต่าง ๆ ขึ้น เพราะหนังสือตำราอันมีค่าถูกพม่าเผาไปเกือบหมด ทรงเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดีแม้ว่าจะต้องทำสงครามกับพม่าตลอดเวลา
คณะรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" เพื่อยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย และได้สร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์ ประทับเหนืออัศวราชพาหนะ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ประดิษฐานบนแท่งคอนกรีตเสริมเหล็ก ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี
กีรติกร เสนรัตน์ /บรรณาธิการ ทัตติ งานอ่อน/ข่าว-เรียบเรียง
ขอบคุณภาพ / งานประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน
งานส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์
ฝ่ายอำนวยการ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลเมืองน่าน โทร 0 54710 234 ต่อ 102,321
facebook เทศบาลเมืองน่าน www.nancity.go.th |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หน้า
1 | 2 | |
|
|
|
|
|
|
|